ที่มา http://pantip.com/topic/34555450
เนื่องจากเวลาที่ผ่านมามีคนถามกันมาหลายคนว่า
“ทำยังไงถึงผอม?” “ใช้ยาไรหรือเปล่า?” “ไม่กินข้าวเย็นใช่ไหม?” จึงตัดสินใจแบ่งปันประสบการณ์การลดน้ำหนักตลอดสามปีให้ทุกคนได้อ่าน. วิธีการของเรายังไม่เป๊ะตามหลักการของนักโภชนการ(อาจยังไม่ถูกใจหมอnutritionนัก55+)
ไม่เป๊ะเหมือนในเพจต่างๆ ไม่ถึงกับcalories count แต่เราก็พอใจกับผลลัพธ์ระดับนึงและกำลังพยายามพัฒนาต่อไป
กลับไปดูอดีตของเราก่อน เราอ้วนตั้งแต่จำความได้เพราะคุณตาคุณยายชอบเด็กอ้วนแกจะบอกว่าน่ารักดีกอดแล้วนุ่มนิ่ม
นี่คือรูปของเราตอน4ขวบกลมป๊อก
ส่วนอันนี้คือรูปประถมและม ปลายรักษามาตรฐานน้ำหนักได้ดีมาก
ตอนเข้ามหาวิทยาลัยยิ่งหนักเนื่องจากคณะที่เราเรียนค่อนข้างมีความเครียดสูงและอยู่หอกับเพื่อนๆเรียนหนักมาทั้งวันตกเย็นก็กินๆ แถมแถวที่เราเรียนมีอาหารอร่อยๆเพียบ จึงเป็นแบบที่เห็น
โหดป่ะละรูปนี้ นางเพื่อนตัวดีถ่ายไว้แกล้ง
ส่วนอันนี้ปีท้ายๆก่อนจบ
ถามว่าตอนนั้นเดือนร้อนไรกับความอ้วนไหมบอกเลยเฉยๆเซ็งนิดๆเวลาหาเสื้อผ้าใส่ไม่ได้ไม่มีตัวเลือกไรมากนักแต่เราไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพค่อนข้างเเข็งแรงด้วยซ้ำเพราะเล่นกีฬาตลอด แต่ด้วยความเล่นกีฬามากก็กินมากเลยไม่ผอมสักที
จบแล้วๆตัวเท่าเดิม555+
ตอนออกไปทำงานตจว. ดั๊นไปอยู่เมืองติดทะเลจัดหน้กไปเลยค่ะอาหารทะเล งานก็หนักอีกเวรกันวันเว้นวันวันหยุดก็จัดหนัก
จุดเปลี่ยนเบาๆคือต้องฝึกทหารโดนให้อยู่ในวินัยวิ่งเช้าเย็นโดนซ่อมพุ่งหลังวิดพื้นsquat
เริ่มทำให้เราตระหนักว่าเราสามารถวิ่งได้นานๆแล้วก็เริ่มติดการวิ่ง
หลังจากทำงานได้สักพักนึงเริ่มรู้สึกว่าเราควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้อื่นเราแนะนำให้ผู้อื่นดูแลสุขภาพแต่ตัวเรากลับปล่อยปละละเลย กินเยอะนอนน้อยขาดการออกกำลังกายอย่างเพียงพอจึงเริ่มต้นการลดความอ้วนตั้งแต่นั้น น้ำหนักตั้งต้นประมาณ80kg
1.การกิน
นโยบายที่1 งดเครื่องดื่มที่มีรสหวานทุกชนิดยกเว้นจะเป็นน้ำตาลเทียม หรือน้ำตาลที่ลดแคล
เราเป็นคนติดกาแฟมาก แต่ก่อนก็ซื้อกาแฟตามร้านกินเนี่ยแหละถ้าสังเกตดีๆจะตกใจกับปริมาณน้ำเชื่อมและนมข้นหวาน—>แค่ขั้นตอนนี้ลดไป2kg
นโยบายที่2 อาหารกินได้ทุกอย่างแต่…..1.เก็บไว้กินร้านที่ชอบที่สุด อันนี้คือสมมติเราชอบกินบลูเบอรี่ชีสพายมากๆๆๆๆ เราจะเก็บโควต้าไว้กินร้านที่เราคิดว่าอร่อยที่สุด คุ้มที่จะอ้วนว่างั้นเถอะ ร้านอื่นที่ธรรมดากพยายามไม่กินรวมถึงขนมอื่นๆที่เราเฉยๆแค่กินแก้เซ็งเช่นขนมถุงๆ ขนมหวานถ้วยๆที่เราไม่ได้ชอบมาก งดไปเลยค่ะ
2.ถ้าอยากกินของหวานลองเปลี่ยนเป็นผลไม้. อยากกินไอติมเปลี่ยนเป็นโยเกิร์ตไขมันต่ำ(อย่าลืมเช็คปริมาณน้ำตาล)
3.สมมติเดินทางไปกินขนมคนเดียว ก็กินได้แค่ชิ้นเดียวเก็บไว้กินหลายครั้งเช่นเค้ก1ชิ้นเรากินตอนเย็นอาจจะกินสักสามคำแล้วห่อกลับมากินมื้ออื่นวันอื่นถัดไป
4. ขนมอะไรที่อยากกินมากๆเช่นเราชอบกินคุ้กกี้แต่รู้แล้วว่าน่าจะเกินโควต้าพลังงานของวันนั้นก็หยิบกิน1-2ชิ้นแล้วเก็บไว้กินวันถัดๆไป
นโยบายที่3 ลดของทอด กินผักผลไม้ให้เป็นนิสัย. โดยเฉพาะมื้อเย็น ไม่กินของอดเลยถ้าทำได้ ช่วงเราลดหนักๆเย็นเรากินแต่สลัดใส่ไข่และถั่ว หรือต้มผักใส่อกไก่กะเต้าหู้แต่อยากบอกว่ามันไม่ถูกนักเพราะเมื่อเราได้มีโอกาสวัด ส่วนประกอบของร่างกายตอนนั้นพบว่ามวลกล้ามเนื้อหายเร็วมากเราคงลดอาหารมากเกินหนักผักมากไป ตอนหลังเราจึงปรับ อยากเตือนคนที่ใช้วิธีอดข้าวเย็นว่าอาจจะเกิดปัญหาเดียวกับเราไดั
อีกอย่างพยายามกินข้าวกล้องหรือข้าวสวยหลีกเลี่ยงข้าวผัดหรือข้าวมัน(หมายถึงกินได้แต่อย่าบ่อย)
นโยบายที่4 มีวันปล่อยวางหรือที่เค้าเรียกว่าcheat day วันเจอเพื่อนวันเจอครอบครัวก็กินไปเถอะ อาจจะระวังบ้างนิดหน่อยเช่นอย่ายัดเฟรนชฟรายไม่อั้น คือถ้ามีไก่ทอดด้วยก็ให้เลือกกินไก่ทอดมากกว่าเพราะอย่างน้อยก็มีโปรตีน และพยายามลดเครื่งดื่มแอลกอฮอล์เรายอมรับแบบโลกไม่สวยว่าเรากินบ้างแต่หลังจากผ่านการลดความอ้วนมาสักระยะเราก้ลดการกินลงเรื่อยๆจนแทบไม่ดื่มแล้วเนื่องจากอยากเอาแคลอรี่ไว้กินอย่างอื่นมากกว่า555+
การออกกำลังกาย
ไม่จำเป็นว่าการออกกำลังกายต้องหมายถึงมีเวลาจำเพาะเจาะจงทุกเวลาสามารถออกกำลังได้เช่น
ขึ้นชั้นสี่ให้ใช้บันได ถ้าไม่รีบให้เดินไปปากซอยแทนนั่งมอไซค์ ไปช้อปกะเพื่อนก็ขอนางถือให้แล้วให้ใช้ถุงช้อปแทนweight
ส่วนการออกกำลังควรเลือกสิ่งที่เราชอบมากที่สุดอย่าตั้งเป้าหมายเกินจริง เช่นเราเริ่มจากวิ่ง4km ใช้เวลานานมากวิ่งทีปวดไปทั้งขา แล้วค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต้องกดดัน สักพักเราเริ่มศึกษาตามเพจต่างๆถึง/ด้ตระหนักว่าการออกกำลังควรมีทั้งaerobic และ wt training เราจึงเริ่มเล่นTRx กละยกน้ำหนักบ้าง
ช่วงหน้าฝน ก็เปิดคลิปyoutubeเอาเราชอบพวกaeroboxing เราก้จะเล่นตามคลิปไปเรื่อยๆ
การนอนสำคัญมากแต่ด้วยอาชีพเราก็นอนไม่ค่อยจะพอ–“. นอนไม่พอจะทำให้เราหงุดหงิดทำให้อยากกินมากขึ้นและไม่มีแรงออกกำลังอีกทั้งทำให้การเผาผลาญหรือmetabolismเสีย
ปลีกย่อย
เชื่อหรือไม่สามปีนี้เราช่างน้ำหนักไปทั้งหมด2ครั้งเราเฝ้าสังเกตจากขนาดเสื้อผ้าว่าหลวมลงหรือไม่
การช่างน้ำหนักบ่อยๆให้เรากดดันมากเกินไปและท้อแท้ เราตั้งเป้าหมายอยู่ที่ความก้าวหน้าทางการคุมอาหารหรือการออกกำลังจะดีกว่า
ไม่มีทางลัดในการลดน้ำหนักไม่มียาใดจะได้ผล เราเคยกินL-canetine ได้ผลไหมเอาเป็นว่าไม่มีนัยสำคัญเพราะหลังเราหยุดกินน้ำหนักเราก็ลงดีส่วนยาอื่นๆที่ขายตามinternet บอกเลยต้องระวังบางครั้งมันใส่ธัยรอยด์ฮอร์โมนผลข้างเคียงอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
เราไม่ใช่ดาราและรูปดารานางแบบที่เราเห็นผ่านการre-touchเกือบทั้งนั้น อยากให้เป้าหมายในการลดน้ำหนักยึดสุขภาพเป็นสำคัญมากกว่าความสวยงามตามอย่างเน็ตidolหรือดาราเพราะบางครั้งด้วยlifestyleเราไม่เหมือนเขาข้อจำกัดต่างๆก็ต่างกันอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครให้หมดกำลังใจ
ทุกคนทำได้ เราเคยคิดมาตลอดเมื่อเห็นคนอื่นลดความอ้วนสำเร็จว่าเราคงไม่มีวันนั้นแต่เชื่อเถอะเราทุกคนทำได้จริงๆต้องปรับทัศนะคติ
ผลหลังจากลองผิดลองถูก(แต่ยังไม่ถูกที่สุด) เราก็ค่อยๆพัฒนาตามลำดับ
ConversionConversion EmoticonEmoticon